ฟิลเลอร์ใต้ตา หัตถการที่ช่วยสร้างความมั่นใจ เพิ่มความไบรท์ให้ดวงตาคุณ
ฟิลเลอร์ใต้ตา หัตถการที่ช่วยสร้างความมั่นใจ เพิ่มความไบรท์ให้ดวงตาคุณ
ปัญหาเรื่องริ้วรอย และความหมองคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตานั้น เรียกว่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องถุงใต้ตา ขอบตาดำ หมองคล้ำไม่กระจ่างใส หรือรอยคล้ำจากภูมิแพ้ใต้ดวงตา ล้วนส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจของสาว ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนั่นก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในวันนี้ Vdesign Clinic ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหัตถการประเภทนี้อย่างละเอียดไปพร้อม ๆ กัน
สารบัญ
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ การฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณรอบดวงตา เป็นเทคนิคทางความงามที่ช่วยเติมเต็มพื้นที่ว่างและริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้ใต้ตาดูอิ่มเอิบ เรียบเนียน ริ้วรอยและรอยคล้ำจางลง ขอบตาดูกระจ่างใสขึ้น หน้าดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที เพียงแค่รอยเข็มเล็กน้อย อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความกระชับกระชั้นให้แก่ผิวรอบดวงตา คืนความสดใสและเปล่งประกายให้ใบหน้า
ประเภทของฟิลเลอร์ใต้ตา
ประเภทของฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ฟิลเลอร์ชั่วคราว และ ฟิลเลอร์ถาวร ซึ่งแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์ชั่วคราว
ฟิลเลอร์ชั่วคราว เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยปกติแล้วจะมีส่วนผสมหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากมีความปลอดภัยและความเสี่ยงต่อการแพ้ต่ำ ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดเติมทุก 6-12 เดือน ยี่ห้อที่นิยมใช้ เช่น Juvederm และ Restylane เป็นต้น
ฟิลเลอร์ถาวร
ฟิลเลอร์ถาวร เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายได้เองโดยธรรมชาติ ส่วนผสมหลักของฟิลเลอร์ชนิดนี้มักเป็นสารสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนเหลว (Liquid Silicone) หรือพอลิเมอร์สังเคราะห์ ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะอยู่ในร่างกายตลอดไป เว้นแต่จะทำการผ่าตัดเอาออก
ปัญหาใต้ตาเกิดจากอะไร
ปัญหาใต้ตาเกิดจากอะไร จริง ๆ แล้วปัญหาใต้ตาที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ไม่สดใส ดูโทรมและเหนื่อยล้า มีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนี้
ถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ผิวหนังใต้ตาเสื่อมสภาพ จึงทำให้ไขมันเคลื่อนตัวต่ำ ส่งผลให้เห็นถุงใต้ตาที่ชัด หรืออาจเกิดจากกระดูกเบ้าตามีการเจริญเติบโตได้ไม่ดี
ริ้วรอย
ริ้วรอย รอยพับใต้ตา เกิดจากอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนที่มีอยู่ในชั้นผิวลดลง และกระดูกใต้ตายุบตัว ส่งผลให้ผิวใต้ตาขาดความกระชับ หย่อนคล้อย จึงเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ อาจมีสาเหตุมาจากผิวใต้ตาขาดการบำรุง รวมถึงการชอบขยี้ตาเป็นประจำอีกด้วย
เบ้าตาลึก
เบ้าตาลึก รอบดวงตาดูโบ๋ ร่องใต้ตา เกิดจากกรรมพันธุ์ที่มีโครงสร้างของกะโหลกเบ้าตาลึก รวมถึงอาจเกิดได้จากอายุที่มากขึ้น ทำให้ไขมันเริ่มฝ่อตัวลง ส่งผลให้เบ้าตาลึก มีร่องใต้ตา
ใต้ตาดำหมองคล้ำ
ใต้ตาหมองคล้ำ เกิดจากภาวะของโรคภูมิแพ้ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และเลือดไม่สามารถไหลไปเลี้ยงส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าได้ จึงส่งผลให้เลือดคั่งและทำให้ใต้ตาดำคล้ำได้ นอกจากนี้ ยังเกิดได้จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย รวมถึงอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์
ประโยชน์ของฟิลเลอร์ใต้ตา
ประโยชน์ของฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- ลดเลือนร่องใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น : ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา
- ช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน : ช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึก ใต้ตาโหล
- ลดรอยคล้ำใต้ตา : ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ
- ปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
- เพิ่มความมั่นใจ
ขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สำหรับขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เริ่มจาก
- ปรึกษาแพทย์ : โดยแพทย์จะประเมินสภาพผิวใต้ตาของคุณอย่างละเอียด รวมถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข เช่น ร่องลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา และแพทย์จะแนะนำประเภทของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ และปริมาณที่ต้องใช้ ผู้ช่วยแพทย์ทำความสะอาดผิวหน้า และแปะยาชาประมาณ 45 นาที
- ก่อนฉีด : แพทย์จะโชว์กล่องฟิลเลอร์ที่จะใช้ และแกะกล่องให้ดูต่อหน้าเพื่อความโปร่งใส
- แพทย์ทำหัตถการ : ฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่ต้องการ ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
- หลังฉีดเสร็จ : แพทย์แนะนำวิธีการดูแลตัวเองให้กับคนไข้ คนไข้สามารถนำกล่องฟิลเลอร์กลับบ้านได้ เพื่อความสบายใจ
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น
คำแนะนำจากแพทย์
ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ ถึงสิ่งที่ควรระวังและหลีกเลี่ยงก่อนฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงการแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับการประวัติการรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริมที่ทาน และโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์ได้เตรียมการทำหัตถการได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนการทำ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนการทำ ได้แก่
- งดยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโปรเฟน แน็ปโรเซน และยาบางชนิดที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- งดวิตามินอี น้ำมันปลา และอาหารเสริมบางชนิดที่อาจทำให้เลือดออกง่าย เนื่องจากอาจเพิ่มโอกาสการเกิดรอยช้ำหลังการฉีด
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผลข้างเคียงฟิลเลอร์ใต้ตาที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการชั่วคราวและหายไปเองได้ภายในระยะเวลาหนึ่ง ดังนี้
- อาการบวม : เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการฉีด โดยเฉพาะบริเวณที่ฉีด อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 วัน
- รอยแดง รอยช้ำ : เกิดจากการที่เข็มฉีดไปโดนเส้นเลือดเล็ก ๆ อาการรอยช้ำจะค่อย ๆ จางลงและหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
ความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- การติดเชื้อ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก หากทำการรักษาในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- การเกิดก้อน: ในบางรายอาจเกิดก้อน หรือเป็นลำ บริเวณที่ฉีดใต้ตา ซึ่งอาจเกิดจากการที่ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่เท่ากัน หรือเกิดการอักเสบ
- การสูญเสียการมองเห็น: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุด และเกิดขึ้นได้น้อยมาก มักเกิดจากการที่ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่เลี้ยงดวงตา เพราะฉีดกับหมอกระเป๋า หรือผู้ไม่ชำนาญการ ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของโครงสร้างกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี
ฟิลเลอร์ใต้ตาปลอดภัยไหม
ฟิลเลอร์ใต้ตาปลอดภัยไหม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ว่ามีความปลอดภัย สลายหมดไปเองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย การฉีดฟิลเลอร์ทุกจุดบนใบหน้าสามารถเสี่ยงตาบอดได้หากฉีดแล้วไปอุดตันเส้นเลือด เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่บริเวณใบหน้ามีเส้นเดียว และเดรนจากล่างขึ้นบน จะฉีดร่องแก้ม คาง ก็สามารถเสี่ยงได้หมด ดังนั้นควรเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่สวยงาม
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- งดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลให้อาการบวมช้ำมากขึ้น
- งดทานอาหารหมักดอง ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเลี่ยงการติดเชื้อและบวม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวได้ยาวนานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
- งดการทำเลเซอร์ที่ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร เรามีคำตอบ
- ผู้ที่ใต้ตาหมองคล้ำ ทำให้หน้าดูโทรมไม่สดใส
- ผู้ที่เบ้าตาลึก รอบดวงตาดูโบ๋ ทำให้หน้าดูโทรมไม่สดใส
- ผู้ที่มีถุงใต้ตา ทำให้ดูมีอายุ
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวดเร็ว ไม่มีเวลาพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหารอบดวงตา แต่กลัวการผ่าตัด
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ใต้ตากับวิธีอื่น ๆ
หลายอ่านอาจอยากทราบการเปรียบเทียบฟิลเลอร์ใต้ตา กับวิธีอื่น ๆ นอกจากฟิลเลอร์ เช่น การผ่าตัด การใช้เลเซอร์ หรือการใช้ครีมบำรุง มาดูกันว่าแต่ละวิธีมีความแตกต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ใต้ตาและการผ่าตัด
ฟิลเลอร์ใต้ตาและการผ่าตัด แตกต่างกันดังนี้:
ฟิลเลอร์
- ข้อดี: เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น แก้ไขปัญหาได้หลายอย่าง ทั้งร่องลึก ใต้ตาคล้ำ และถุงใต้ตา
- ข้อเสีย: ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องทำซ้ำเป็นระยะ
การผ่าตัด
- ข้อดี: แก้ปัญหาได้ตรงจุด เหมาะสำหรับปัญหาที่รุนแรง เช่น ถุงใต้ตาขนาดใหญ่
- ข้อเสีย: ใช้เวลาในการพักฟื้นนาน มีค่าใช้จ่ายสูง เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
การใช้เลเซอร์
การใช้เลเซอร์ มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้:
- ข้อดี: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวใต้ตาดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะกับปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อยและริ้วรอย
- ข้อเสีย: ไม่สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้โดยตรง ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจน
การใช้ครีมบำรุง
การใช้ครีมบำรุง มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้:
- ข้อดี: ราคาประหยัด สามารถทำได้เองที่บ้าน
- ข้อเสีย: เหมาะสำหรับปัญหาใต้ตาที่ไม่รุนแรง
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
หลายคนอาจมีความลังเล ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามี 2 ยี่ห้อยอดนิยมมาแนะนำกัน ได้แก่
Juvederm
Juvederm ฟิลเลอร์อเมริกา ผลิตโดย Allergan ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายหน่วยงาน รวมถึง อย. ไทย, US FDA และ EDQM ยุโรป โดยฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
Restylane
Restylane ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 25 ปี ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US FDA และ อย. ไทย
ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
ควรฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หลายคนอาจมีความคิดนี้อยู่ไม่น้อย เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยทั้งความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์ เพราะเป็นเหมือนงานศิลปะของแพทย์ ที่ออกแบบและตกแต่งใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกคลินิก และแพทย์ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ต้องการ และได้รับการบริการที่ปลอดภัย
รีวิวประสบการณ์จากผู้เคยฉีดฟิลเลอร์
บริการฉีดฟิลเลอร์ ที่ Vdesign Clinic
บริการฉีดฟิลเลอร์ ที่ Vdesign Clinic มีจุดเด่นอย่างไรที่ทำให้ต้องเลือกใช้บริการ เรามีคำตอบ
ฉีดกับแพทย์ American Board
ฉีดกับแพทย์ American Board ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์มากกว่า 10 ปี
ฉีดกับอาจารย์แพทย์ ระดับ MASTER TRAINER
ฉีดกับอาจารย์แพทย์ ระดับ MASTER TRAINER ที่ได้รับเชิญไปเป็นอาจารย์แพทย์เพื่อสอนเทคนิคต่าง ๆ ประจำทุกปี
แก้ปัญหาตรงจุด ด้วยเทคนิคพิเศษ
แก้ปัญหาตรงจุด ด้วยเทคนิคพิเศษ เฉพาะ Vdesign Clinic เพราะแพทย์เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างทางกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี ทำให้ฉีดฟิลเลอร์แม่นยำ ปลอดภัย และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
มีการเทรนนิ่ง อัพเดทความรู้ อย่างต่อเนื่อง
ทีมแพทย์มีการเทรนนิ่ง อัพเดทความรู้ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาศักยภาพ และเทคนิคใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อดูแลแก้ไขปัญหาคนไข้ได้อย่างตรงจุดที่สุด
ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองระดับนานาชาติ
ใช้ฟิลเลอร์แท้ ผ่านการรับรองระดับนานาชาติ US FDA จากอเมริกา /EU FDA จากยุโรป / KFDA จากเกาหลี และ TH FDA ของไทย ตรวจสอบได้ทุกกล่อง ก่อนฉีดแพทย์จะแกะกล่องใหม่ทุกเคส มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย
ได้รับความไว้วางใจจากดารา และ Celebrity มากมาย
ได้รับความไว้วางใจจากดารา และ Celebrity มากมาย ที่เชื่อมั่นในฝีมือ และคุณภาพของทีมแพทย์ Vdesign Clinic
เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 10 ปี
Vdesign เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 10 ปี กว่า 95% ของลูกค้าประทับใจผลลัพธ์ และการให้บริการ จนเกิดเคสบอกต่อ นอกจากนี้
ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานโรงพยาบาลวิภาวดี
Vdesign Clinic ปลอดภัย ด้วยมาตรฐานโรงพยาบาลวิภาวดี
FAQ คำถามที่พบบ่อย
ฟิลเลอร์ใต้ตา น่ากลัวไหม
หากใช้ฟิลเลอร์แท้ แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมีความชำนาญสูง ก็มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน แก้ไขอย่างไร
สามารถฉีดสลายได้ โดยระยะเวลาในการรอฟิลเลอร์สลายประมาณ 1-2 อาทิตย์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา
อาจพบอาการบวมช้ำ เป็นรอยแดง ซึ่งสามารถพบได้เป็นปกติ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และอาการจะหายไปได้เองตามธรรมชาติ ยุบบวมหายสนิทใน 1-2 สัปดาห์
ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันถึงจะเห็นผล
สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ โดยจะสังเกตได้ว่า ร่องลึก ริ้วรอย หรือปัญหาใต้ตาดำคล้ำจะลดลง ใต้ตาดูเต็มขึ้น ถุงใต้ตาลดลง ผิวใต้ตากระจ่างใสขึ้นได้ในทันที และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 2-3 สัปดาห์ เพราะเนื้อฟิลเลอร์จะผสานรวมกับเนื้อเยื่อของเรา
ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานแค่ไหน
ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองของคนไข้
ฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บไหม
เรียกว่าเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ เพราะโดยปกติการฉีดฟิลเลอร์จะมีการฉีดยาชา หรือทายาชาอยู่แล้ว และฟิลเลอร์บางตัวก็มียาชาในตัว
เคยฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น เปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้ไหม
คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว แต่อยากฉีดซ้ำ หรือฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ สามารถเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้ สามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ของ Vdesign Clinic ได้
ฟิลเลอร์เก่าเริ่มสลาย ถ้าจะฉีดใหม่ต้องขูดฟิลเลอร์เก่าออกไหม
หากเคยฉีดฟิลเลอร์แท้มาก่อน ถ้าฟิลเลอร์เริ่มสลาย สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องขูดฟิลเลอร์เก่าออก
ฟิลเลอร์สลายไวกว่าปกติ เกิดจากอะไร
ฟิลเลอร์สลายไวกว่าปกติ อาจเกิดได้จาก การนวด บีบ คลึง จุดที่ฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ หรือผิวบริเวณนั้นโดนความร้อนบ่อยจนเกินไป ในช่วง 2 สัปดาห์หลังฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น งดทำซาวน่า และงดทำหัตถการที่ใช้ความร้อน เช่น ยิงเลเซอร์, Thermage, Uthera ฯ
ฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ cc
ฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้ปริมาณสารเติมเต็ม HA ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และรับกับรูปหน้าของคนไข้